���������� จินี่ ไวจ์นัลดุม กองกลางดัตช์ที่ในเวลานี้ย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แยร์กแมง ได้ระบายความอัดอั้นตันใจในช่วงที่ยังเป็นนักเตะ 'หงส์แดง' ลิเวอร์พูลว่า เขามักจะตกเป็นแพะรับบาปในโลกโซเชียลยามที่ทีมทำได้แค่เสมอหรือว่าแพ้
���������� ไวจ์นัลดุมบอกว่าเขารักช่วงเวลาที่อยู่กับทีมมาก เขาไม่มีปัญหาใดๆ เลยกับทุกคนที่ลิเวอร์พูล แต่ส่วนที่เขาใช้คำว่าไม่รักคือ เสียงวิจารณ์ของแฟนๆ ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลที่มุ่งมายังเขา ที่เขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย
���������� "มันเป็นช่วงเวลาที่งดงามในตอนท้าย และหลายสัปดาห์จากนั้นผมก็ยังคิดถึงมัน" ไวจ์นัลดุมกล่าวถึงการที่เขาผ่านการคว้าแชมป์แทบทุกรายการกับลิเวอร์พูลไม่ว่าจะเป็น แชมเปี้ยนส์ลีก, พรีเมียร์ลีก, ซูเปอร์คัพ และ สโมสรโลก "ไม่ใช่นักเตะทุกคนจะได้จากสิ่งนั้นไป"
����������� "แต่ก็มีช่วงเวลาที่ผมไม่ได้รู้สึกรักหรือปลาบปลื้ม ไม่ใช่เรื่องเพื่อนร่วมทีมผม, ไม่ใช่เรื่องผู้คนที่เมลวู้ด จากพวกเขา ผมรู้...ผมสามารถพูดได้ว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรักผม และผมก็รักพวกเขานะ มันไม่ได้มาจากด้านนั้น มันมากจากอีกด้านนึง"
����������� "ผมเองอยากเป็นนักเตะลิเวอร์พูลไปอีกหลายปีนะ แต่น่าเสียดายที่สิ่งต่างๆ มันเกิดขึ้นในแบบที่แตกต่าง (ที่นอกเหนือจากเรื่องสัญญาที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้)
����������� "ผมต้องบอกว่ามีเรื่องเกี่ยวกับโซเชีลมีเดียมาเกี่ยวข้องด้วย - เมื่อสิ่งต่างๆ เลวร้าย ผมเป็นนักเตะที่โดนพวกเขาด่า นั่นทำให้ผมต้องการย้าย ทุกวันในการซ้อม และ ในการแข่งขัน ผมทุ่มเททุกอย่าง ผมต้องการทำมันให้ดีให้ได้ เพราะว่าในระหว่างหลายปีที่นั่น ลิเวอร์พูลมีความหมายกับผมมาก ด้วยแนวทางที่แฟนๆ ในสนามปฏิบัติกับผม"
����������� "ความรู้สึกของผมที่มีต่อแฟนๆ� ในสนาม กับแฟนๆ บนโลกโซเชียล เป็นอะไรที่แตกต่างกันเลยน่ะ แฟนๆ ในสนามให้กำลังใจและสนับสนุนผมเสมอ แม้กระทั่งในช่วงที่พวกเขากลับมากัน (หลังก่อนหน้า สนามถูกห้ามเข้าเพราะสถานการณ์โควิด) และรู้ว่าผมกำลังจะย้ายออก พวกเขาก็ยังคงให้การสนับสนุนผม พวกเขาอำลาผมอย่างยอดเยี่ยม"
����������� "ในโซเชียลมีเดีย ถ้าพวกเราแพ้ ผมเป็นหนึ่งในคนที่โดนด่า มีช่วงเวลาที่กระแหนะกระแหะแบบว่า 'ว้าว ถ้าแค่ว่าผมฟิต ผมจะได้ลงเล่นทุกนัด' หรือไม่ก็ 'นักเตะอาจจะพูดว่า 'โอเค ฉันไม่ฟิต - ส่วนนาย (หมายถึงจินี่ คือนักเตะคนสุดท้ายของปีแน่นอนที่จะพูดในทำนองว่า 'ผมไม่เล่นเพราะว่ามันเสี่ยง' ในความหมายของพวกเขา ผมจะถูกมองตรงข้ามเสมอ"
����������� "ผมไม่ได้เล่นได้ดีทุกนัดก็จริง แต่หลังการแข่งจบลง ผมจะมองไปที่กระจกและพูดเสมอว่า 'ฉันได้ทุ่มเททั้งหมดไปแล้ว ฉันจะซ้อมให้หนักเพื่อให้ดีขึ้น' แม้กับนักกายภาพ ผมจะไปใช้เวลากับพวกเขามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมจำไม่ได้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ผมได้พัก เพราะว่าผมลงเล่นหลายเกมมาก และโดยพื้นฐานแล้วมันมากไปกับร่างกาย แต่ผมทำทุกอย่างเพื่อให้รักษาความฟิตไว้"
����������� เมื่อถูกถามลึกไปถึงข่วงเวลาไหนที่เขารู้สึกไม่ปลื้มมากที่สุด จินี่บอกว่า "มันไม่ใช่ในฤดูกาลท้ายสุดนี่หรอก ก่อนหน้านั้นก็มี ใน 2 ฤดูกาลหลังมี 2-3 ครั้ง"
����������� "มีเรื่องราวเกี่ยวกับที่ลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอ (สัญญาใหม่) ให้ ผมไม่ตอบรับ เพราะว่าผมต้องการเงินมากกว่านี้ และแฟนๆ ก็ทำมันให้กลายเป็นว่า 'โอเค เขาไม่รับข้อเสนอไง เขาก็เลยไม่พยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะ' "
��������� "และเมื่อผลการแข่งออกมาไม่ได้ดีจริงๆ ทุกอย่างก็ดูเหมือนตรงกันข้ามกับผม บางช่วงเวลาก็มีให้แอบคิดนะว่า 'ว้าว นี่ฉันอีกแล้วเหรอ?' มันเป็นการสะสม แต่เพื่อนร่วมทีมของผมไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าผมทำพวกเขาผิดหวัง หรืออะไรทำนองนั้นเลย ทุกอย่างเรียบร้อยดี"
��������� "มันยากที่พูดถึงเกี่ยวกับฟุตบอล เพราะว่าทุกครั้งมันเหมือนมีคำถามแค่เรื่องของอนาคต (เรื่องสัญญา เรื่องการย้ายทีม ที่โดนถามอยู่ตลอด) แม้กระทั่งเพื่อนของผมยังอ่านเจอบางสิ่ง และมาหาผมพร้อมกับพูดว่า 'เรื่องนี้จริงเหรอ? โอ้ นายกำลังทำแบบนี้อยู่เหรอ?" ผมจะบอกพวกเขาไปว่า 'นายจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง' ผมก็แค่ไม่ต้องการจะพูดเกี่ยวกับมัน เพราะว่ามันจะมีแต่เรื่องเกี่ยวกับ 'อนาคตของผมในเรื่องนี้ อนาคตของผมในเรื่องนั้น' นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมแทบจะเป็นพื้นฐานในฤดูกาลสุดท้ายที่ลิเวอร์พูล อนาคตของไวจ์นัลดุม� ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่สวยงามที่เกิดขึ้นในสนาม"